
โทนเนอร์ โทนเนอร์คืออะไร ทำไมต้องเลือกใช้
ก่อนอื่นเลยเราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับโทนเนอร์ โทนเนอร์คืออะไร? ทำไมจะต้องใช้โทนเนอร์ในการทำความสะอาดผิวหน้า และ โทนเนอร์กับคลีนซิ่งต่างกันอย่างไร ก่อนการเริ่มต้นขั้นตอนการบำรุงผิว โทนเนอร์ ( Toner ) คือผลิตภัณฑ์ สกินแคร์ ดูแลผิวหน้าประเภทหนึ่งที่มีส่วนผสมของน้ำและสารบำรุงผิวต่างๆ เช่น สารสกัดจากธรรมชาติ วิตามิน และเกลือแร่ ผลิตภัณฑ์โทนเนอร์ มีหน้าที่ช่วยปรับสมดุลค่า pH ของผิวหน้า กระชับรูขุมขน ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึก ผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว โดยโทนเนอร์ควรใช้เป็นประจำทุกวันในตอนเช้าและก่อนนอน หลังล้างหน้าด้วยคลีนเซอร์ เพื่อทำความสะอาดผิวหน้าอย่างล้ำลึกและเตรียมผิวให้พร้อมรับการบำรุงจากครีมบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไป
ประเภทของโทนเนอร์
โทนเนอร์ผลัดเซลล์ผิว (Exfoliating Toner)
คือโทนเนอร์ชนิดหนึ่งที่มีส่วนประกอบของสารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วบนชั้นผิวหน้าให้หลุดลอกออกไปอย่างอ่อนโยน เผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสและเรียบเนียนขึ้น โทนเนอร์ผลัดเซลล์ผิว มักมีส่วนผสมของกรดผลไม้ (AHA) หรือกรดซาลิไซลิก (BHA) ซึ่งมีคุณสมบัติในการผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนโดยไม่ทำให้ผิวระคายเคือง โดยโทนเนอร์ผลัดเซลล์ผิวเหมาะสำหรับคนที่มีผิวหน้าหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง หรือมีรอยดำจากสิว โทนเนอร์ชนิดนี้จะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วที่อุดตันรูขุมขน ทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้นและรูขุมขนกระชับขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดเลือนรอยดำจากสิวได้ด้วย ซึ่งโทนเนอร์ผลัดเซลล์ผิวเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน ทำให้ผิวกระจ่างใสและเรียบเนียนขึ้น แต่ควรใช้อย่างระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลากอย่างเคร่งครัด
โทนเนอร์เติมน้ำให้ผิว (Hydrating Toner)
เป็นโทนเนอร์ชนิดหนึ่งที่มีส่วนประกอบของสารที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว เช่น กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic acid) น้ำผึ้ง (Honey) ว่านหางจระเข้ (Aloe vera) หรือน้ำมันธรรมชาติ โทนเนอร์ชนิดนี้จะช่วยเติมน้ำให้กับผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น เนียนนุ่ม และยืดหยุ่น ซึ่ง โทนเนอร์เติมน้ำให้ผิว เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ หรือผิวที่ขาดความชุ่มชื้นจากมลภาวะ โทนเนอร์ชนิดนี้จะช่วยเติมน้ำให้กับผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นและลดการสูญเสียน้ำออกจากผิว นอกจากนี้ยังช่วยปลอบประโลมผิวที่แห้งกร้านและระคายเคือง โดยโทนเนอร์เติมน้ำให้ผิวเป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่ช่วยเติมน้ำให้กับผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น เนียนนุ่ม และยืดหยุ่น แต่ควรเลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมที่เหมาะสมกับสภาพผิวและใช้อย่างระมัดระวัง
โทนเนอร์ปกป้องสมดุลผิว (Healing/pH Balancing Toner)
เป็นโทนเนอร์ชนิดหนึ่งที่มีส่วนประกอบของสารที่ช่วยปรับสมดุลค่า pH ของผิวหน้าให้อยู่ที่ประมาณ 5.5 ซึ่งจะช่วยปกป้องผิวจากสิ่งสกปรก มลภาวะ และเชื้อโรคต่างๆ โทนเนอร์ปกป้องสมดุลผิว เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย ผิวบอบบาง หรือผิวที่มีปัญหาจากการแพ้เครื่องสำอาง โทนเนอร์ชนิดนี้จะช่วยปรับสมดุลค่า pH ของผิว ทำให้ผิวแข็งแรงไม่แพ้ง่าย นอกจากนี้ยังช่วยปลอบประโลมผิวที่ระคายเคือง โดยโทนเนอร์ปกป้องสมดุลผิวเป็น ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า ที่ช่วยปรับสมดุลค่า pH ของผิว ทำให้ผิวแข็งแรงไม่แพ้ง่าย แต่ควรเลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมที่เหมาะสมกับสภาพผิวและใช้อย่างระมัดระวัง
โทนเนอร์ มีกี่รูปแบบ
โทนเนอร์มีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความชอบและความต้องการของแต่ละบุคคล ดังนี้
- โทนเนอร์แบบน้ำ เป็นโทนเนอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มีเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมซาบสู่ผิวได้ง่าย เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
- โทนเนอร์แบบเจล มีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นกว่าโทนเนอร์แบบน้ำเล็กน้อย เหมาะสำหรับผิวมันและผิวผสม เพราะช่วยควบคุมความมันส่วนเกินบนใบหน้า
- โทนเนอร์แบบโลชั่น มีเนื้อสัมผัสที่เข้มข้นกว่าโทนเนอร์แบบเจลเล็กน้อย เหมาะสำหรับผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย เพราะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว
- โทนเนอร์แบบแผ่น สะดวกและรวดเร็วในการใช้งาน เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
- โทนเนอร์แบบโฟม เหมาะสำหรับผิวมันและผิวผสม เพราะช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกและน้ำมันส่วนเกินบนใบหน้าได้อย่างล้ำลึก
วิธีเลือกใช้โทนเนอร์ ให้เหมาะกับสภาพผิว
วิธีเลือกใช้โทนเนอร์ มีให้เลือกหลายประเภท ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล เช่น
- โทนเนอร์สำหรับผิวมัน มีส่วนผสมของสารที่ช่วยควบคุมความมัน เช่น กรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) กรดไกลโคลิค (Glycolic acid) เป็นต้น โทนเนอร์เหล่านี้จะช่วยขจัดความมันส่วนเกินบนใบหน้า กระชับรูขุมขน และลดการเกิดสิว
- โทนเนอร์สำหรับผิวแห้ง มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้น เช่น กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic acid) น้ำผึ้ง (Honey) ว่านหางจระเข้ (Aloe vera) เป็นต้น โทนเนอร์เหล่านี้จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้ผิวไม่แห้งกร้าน
- โทนเนอร์สำหรับผิวผสม มีส่วนผสมของสารที่ช่วยควบคุมความมันและเพิ่มความชุ่มชื้น เช่น กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic acid) ชาเขียว (Green tea) คาโมมายล์ (Chamomile) เป็นต้น โทนเนอร์เหล่านี้จะช่วยควบคุมความมันส่วนเกินบนใบหน้า เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว และปลอบประโลมผิว
- โทนเนอร์สำหรับผิวแพ้ง่าย มีส่วนผสมของสารจากธรรมชาติ เช่น ว่านหางจระเข้ คาโมมายล์ ชาเขียว เป็นต้น โทนเนอร์เหล่านี้มีฤทธิ์ช่วยปลอบประโลมผิวและลดการระคายเคือง
นอกจากนี้ โทนเนอร์บางประเภทยังมีส่วนผสมของสารสกัดจากธรรมชาติหรือส่วนผสมอื่นๆ ที่มีสรรพคุณพิเศษ เช่น โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี (Vitamin C) ช่วยเพิ่มความกระจ่างใสให้กับผิว โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของวิตามินอี (Vitamin E) ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic acid) ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เป็นต้น
การ เลือกโทนเนอร์ให้เหมาะกับสภาพผิว สามารถทำได้ดังนี้
- ตรวจสอบสภาพผิวของตัวเองก่อนว่าเป็นคนผิวมัน ผิวแห้ง ผิวผสม หรือผิวแพ้ง่าย
- พิจารณาปัญหาผิวของตัวเอง หากมีผิวที่มีปัญหา เช่น ผิวเป็นสิว ผิวหมองคล้ำ ผิวแห้งกร้าน เป็นต้น ควรเลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยแก้ปัญหาผิวนั้นๆ
- ตรวจสอบส่วนผสมของโทนเนอร์ ควรเลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
เคล็ดลับในการใช้โทนเนอร์
การใช้โทนเนอร์ อย่างเป็นประจำทุกวัน เช้าและก่อนนอน จะช่วยให้ผิวหน้าสะอาดกระจ่างใส สุขภาพดี อย่างไรก็ตาม ยังมี เคล็ดลับในการใช้โทนเนอร์ ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ดังนี้
- ใช้โทนเนอร์ทันทีหลังจากล้างหน้า เพื่อให้โทนเนอร์สามารถทำความสะอาดสิ่งสกปรก น้ำมันส่วนเกิน และเครื่องสำอางที่ตกค้างบนผิวหน้าได้อย่างหมดจด
- เช็ดโทนเนอร์เบาๆ ด้วยสำลี ไม่ควรถูหรือขัดแรงๆ เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้
- สามารถใช้โทนเนอร์เช็ดบริเวณรอบดวงตาได้ แต่ควรใช้สำลีแผ่นที่อ่อนนุ่มและเช็ดเบาๆ
- หากมีผิวแห้ง ควรใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้น เช่น กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic acid) น้ำผึ้ง (Honey) ว่านหางจระเข้ (Aloe vera) เป็นต้น
- หากมีผิวมัน ควรใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของสารช่วยควบคุมความมัน เช่น กรดซาลิไซลิก (Salicylic acid) กรดไกลโคลิค (Glycolic acid) เป็นต้น
เคล็ดลับเพิ่มเติมในการใช้โทนเนอร์
- ควรเลือกโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง เพื่อให้โทนเนอร์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยให้ผิวหน้าสวยใส สุขภาพดี
- หลีกเลี่ยงการใช้โทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคืองได้
- ทดสอบการแพ้ก่อนใช้โทนเนอร์โดยการทาลงบนบริเวณท้องแขนหรือหลังหู หากมีอาการแพ้ เช่น แดง บวม คัน ให้หยุดใช้ทันที
การ เลือกใช้โทนเนอร์ให้เหมาะกับสภาพผิว และการ ใช้โทนเนอร์อย่างถูกวิธี จะช่วยให้ผิวหน้าสวยใส สุขภาพดี
#โทนเนอร์ #โทนเนอร์คืออะไร #โทนเนอร์ดีอย่างไร #ทำไมต้องใช้โทนเนอร์ #วิธีเลือกใช้โทนเนอร์ #ประโยชน์ของโทนเนอร์ #เคล็ดลับการใช้โทนเนอร์ #การใช้โทนเนอร์ให้ถูกวิธี #โทนเนอร์ที่เหมาะกับผิว #ผลิตภัณฑ์โทนเนอร์ #เลือกซื้อโทนเนอร์ #โทนเนอร์อันไหนดี #โทนเนอร์ถูกและดี #โทนเนอร์ในเซเว่น #โทนเนอร์ใช้ดี #Toner #โทนเนอร์กับคลีนซิ่งต่างกันอย่างไร #โทนเนอร์ตัวดัง #โทนเนอร์น่าสนใจ #โทนเนอร์ยอดฮิต #โทนเนอร์ยอดนิยม #โทนเนอร์น่าใช้